หลังจากผ่านเทศกาลปีใหม่ต้นปีมาไม่นาน ก็มาถึงเทศกาลของคนจีนและคนไทยเชื่อสายจีนกันบ้าง กับ วันตรุษจีน หรือ ปีใหม่จีน ในเทศกาลวันตรุษจีนนี้ ถือว่าเป็นวันที่หลายคนรอคอย เพราะว่าจะถือว่าเป็นอีกวันที่ได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ญาติพี่น้อง ผู้ใหญ่ ต่างเตรียมตัวมาไหว้เจ้า กราบไหว้บรรพบุรุษ เรียกว่าเป็นทำเนียมประเพณีที่ยืดถึงปฏิบัติกันมาแสนนาน
ตำนานความเป็นมาของวันตรุษจีน
ตรุษจีน เป็นวันสำคัญของจีนที่มีมาแต่โบราณที่เรียกว่า “กว้อชุนเจี๋ย” หรือ “กว้อเหนียน” เล่ากันว่าในสมัยโบราณ ในป่าทึบแห่งหนึ่ง มีสัตว์ป่าที่ดุร้ายและน่ากลัวมากตัวหนึ่ง เรียกว่า “เหนียน” ออกอาละวาดกินคนเป็นประจำ พระเจ้าจึงลงโทษมัน อนุญาตให้มันลงมาจากเขาได้เพียงหนึ่งครั้งใน 365 วัน
ดังนั้น เมื่อฤดูหนาวใกล้จะผ่านไป ฤดูใบไม้ผลิเวียนมาใกล้ เหนียน ก็จะออกมาทำร้ายผู้คน เพื่อป้องกันการมาของเหนียน ทุกๆ ครัวเรือนจึงต่างสะสมเสบียงอาหาร และกับข้าวจำนวนหนึ่งไว้ในบ้าน เมื่อถึงตอนค่ำของวันที่ 30 เดือน 12 ก็จะปิดประตูและหน้าต่างเอาไว้ ไม่หลับไม่นอนตลอดคืน เพื่อต่อสู้กับ เหนียน จนกระทั่งถึงรุ่งเช้าก็จะเป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือน 1 เมื่อ เหนียน กลับไปแล้ว ทุกๆ ครัวเรือนก็จะเปิดประตูออกมาแสดงความยินดีต่อกัน ที่โชคดีไม่ได้ถูกเหนียนทำร้าย
ต่อมาพบว่าเหนียนก็มีจุดอ่อน มีอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อเหนียนมาถึงหมู่บ้านมีเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังหวดแส้เล่นกัน เมื่อเหนียนได้ยินเสียงแส้ดังเปรี้ยงปร้างก็ตกใจเผ่นหนีไป เมื่อเหนียนไปถึงหมู่บ้านอีกแห่งหนึ่ง เห็นมีชุดเสื้อผ้าสีแดงตากอยู่หน้าบ้านของครอบครัวหนึ่ง สีแดงฉูดฉาดนั้นทำให้เหนียนตกใจและเผ่นหนีไปอีก
เมื่อเหนียนมาถึงหมู่บ้านแห่งที่สาม ปรากฏว่าไปพบเห็นกองเพลิงกองหนึ่งบนถนน แสงเพลิงที่เจิดจ้าทำให้เหนียนต้องเผ่นหนีไปอีกครั้ง ตั้งแต่นั้นมาผู้คนต่างรู้ว่า แม้ว่าเหนียนจะดุร้ายแต่มันก็กลัวสีแดง เสียงดังและไฟ ทำให้ผู้คนสามารถคิดหาวิธีกำจัดเหนียนได้โดยไม่ยากนัก
เมื่อถึงวันที่เหนียนกลับมาอีกวนเวียนมาอีกครั้งหนึ่ง ทุกๆ ครัวเรือนจึงต่างนำกระดาษสีแดงมาติดไว้บนประตูหน้าบ้าน แขวนโคมไฟสีแดง พร้อมกับจุดประทัดและตีฆ้องรัวกลองอย่างต่อเนื่อง เมื่อเหนียนมาถึงในตอนเย็น เห็นทุกๆ ครัวเรือนมีแสงไฟสว่างไสว มีเสียงประทัดดังสนั่นจึงตกใจเผ่นหนีกลับเข้าป่าไป และไม่กล้าออกมาอาละวาดอีก ทุกๆ
คนจึงผ่านพ้นคืนแห่งอันตรายไปอย่างปลอดภัย เมื่อฟ้าสางแล้ว ผู้คนจึงออกมาจากบ้าน กล่าวคำอวยพรซึ่งกันและกันอย่างมีความสุข พร้อมกับการนำอาหารออกมารับประทานร่วมกันอย่างสนุกสนานนั่นเองและถือฤกษ์เอาวันนี้เป็นวันปีใหม่หรือวันตรุษจีน
ความหมายของอาหารไหว้ ซาแซ-โหงวแซ
- ไก่ หมายถึง ความสง่างาม ขุนนาง ยศ และ ความขยันขันแข็ง ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
- เป็ด หมายถึง สิ่งที่บริสุทธิ์ ความสะอาด ความสามารถอันหลากหลาย
- ปลา หมายถึง เหลือกินเหลือใช้ อุดมสมบูรณ์
- หมู หมายถึง ความอุดมสมบรูณ์ มีกินมีใช้
- ปลาหมึก หมายถึง เหลือกินเหลือใช้(เหมือนปลา)
- ตับ เพื่อให้ก้าวหน้าในงานเพราะคนจีนแต้จิ๋วเรียกตับว่า “กัว”
- ปลาหมึกแห้ง เพื่อให้มีหมึก หรือความรู้ เป็นการอวยพรให้เป็นบัณฑิต หรือผู้มีความรู้
- ซาลาเปา หมายถึง “เปาไช้” แปลว่า “ห่อโชค”